Categories
ข่าวการเมือง ข่าวประเด็นร้อน

อ.วรพล พรหมิกบุตร ข้อเสนอสมานฉันท์จากพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรและ นปช. ไม่ใช่เรื่อง “ส่วนตัว” โดยแท้

ข้อเสนอสมานฉันท์จากพ.ต.ท. ทักษิณ  ชินวัตรและ นปช. ไม่ใช่เรื่อง “ส่วนตัว” โดยแท้ รองศาสตราจารย์ ดร. วรพล  พรหมิกบุตร (นักวิชาการเพื่อประชาธิปไตยและสันติวิธี) คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์                 ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ ๓ ของเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๒  ตัวแทนและที่ปรึกษาทางกฎหมายของ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ  ชินวัตร (ดร. นพดล  ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พรรคพลังประชาชน พ.ศ. ๒๕๕๑) ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับข้อเสนอวิธียุติความขัดแย้งทางการเมืองของไทยตามความเห็นของ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ  ชินวัตร ว่าสามารถทำได้โดยการเจรจาประนีประนอมให้มีผลทางปฏิบัติ ๓ เรื่อง คือ (๑) ยกเลิกรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ และนำรัฐธรรมนูญ ๒๕๔๐ กลับมาบังคับใช้ (๒) ยุบสภา และ (๓) จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ; ในช่วงเวลาเดียวกัน ตัวแทน “นปช.” (คุณ จตุพร  พรหมพันธุ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย) แถลงต่อสื่อมวลชนถึงแนวทางการสมานฉันท์ทางการเมืองคล้ายคลึงกันข้างต้น โดยกล่าวย้ำว่าควรจะต้องมีการทำสัตยาบันจากทุกฝ่ายที่ขัดแย้งกันว่าจะเคารพผลการเลือกตั้งทั่วไปภายหลังการนำรัฐธรรมนูญ ๒๕๔๐ กลับมาใช้ และภายหลังการยุบสภาข้างต้น                 หลังจากสื่อมวลชนไทยเผยแพร่ข้อเสนอแนวทางการเจรจาสมานฉันท์ข้างต้น  แกนนำบริหารรัฐบาลผสมพรรคประชาธิปัตย์ (นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี […]

Categories
ข่าวการเมือง ข่าวประเด็นร้อน

อ.วรพล พรหมิกบุตร การเมืองไทย ๒๕๕๓ : ทางตันของคณะรัฐประหารและรัฐบาลประชาธิปัตย์

การเมืองไทย ๒๕๕๓ : ทางตันของคณะรัฐประหารและรัฐบาลประชาธิปัตย์ รองศาสตราจารย์ ดร. วรพล  พรหมิกบุตร (นักวิชาการเพื่อประชาธิปไตยและสันติวิธี) คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มกราคม  ๒๕๕๓ ๑. ภูมิหลังปัญหาและความต่อเนื่องของความขัดแย้ง                                 การรัฐประหารวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙ มีวัตถุประสงค์ในการกำจัดการเมืองระบอบประชาธิปไตย เพื่อหวนคืนสู่การเมืองระบอบคณาธิปไตยโดยใช้รัฐสภาที่มีเครือข่ายคณะรัฐประหารในกองทัพและผู้ร่วมผลประโยชน์ภายนอกกองทัพ (ดังปรากฏบทบาทและตัวตนของบุคคลรวมทั้งองค์กรต่าง ๆ หลากหลายวิชาชีพในช่วง ๓ ปีที่ผ่านมา) ร่วมกันสืบทอดอำนาจปกครองโดยอาศัยรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ และกฎหมายอื่นทั้งที่มีอยู่แล้วและที่บัญญัติขึ้นใหม่เป็นการเฉพาะสำหรับการสืบทอดอำนาจภายในเครือข่ายคณะรัฐประหาร (รวมทั้งการกำจัดปรปักษ์ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย)                                 วิธีการหวนคืนสู่ระบอบคณาธิปไตยและสืบทอดอำนาจการเมืองการปกครองของเครือข่ายคณะรัฐประหาร ๒๕๔๙ กระทำเป็นกระบวนวิธีมีลำดับขั้นตอนโดย (๑) การยึดอำนาจการเมืองด้วยกำลังในวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙  ซึ่งเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๓ แต่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ตนเอง (๒) การจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาร่างรัฐธรรมนูญของคณะรัฐประหาร (๓)  การมอบหมายให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาร่างรัฐธรรมนูญของคณะรัฐประหารเขียนบทบัญญัติทางกฎหมายกำหนดขั้นตอน ซ่อนวิธีการสืบทอดอำนาจและการควบคุมการเมืองการปกครองในรัฐสภาโดยใช้กฏหมายหรือนิติวิธี  สืบเนื่องต่อจากช่วงเวลาที่ต้องควบคุมด้วยกำลังอาวุธ (ได้แก่ บทบัญญัติว่าด้วยวุฒิสภา,  บทบัญญัติว่าด้วยการสรรหาองค์กรอิสระและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ, และบทเฉพาะกาลเป็นสำคัญ) เครือข่ายคณะรัฐประหาร ๒๕๔๙ กระทำการตามขั้นตอนกระบวนวิธีเหล่านี้สำเร็จระหว่างวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ถึงวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐                                ท่ามกลางความสำเร็จดังกล่าว  เครือข่ายคณะรัฐประหาร ๒๕๔๙ ประสบความล้มเหลวในเบื้องต้น […]

Categories
ข่าวการเมือง ข่าวประเด็นร้อน

อ.วรพล พรหมิกบุตร ปลายทางความรุนแรง : หายนะคนเสื้อแดงและประชาธิปไตยไทย

ปลายทางความรุนแรง  :  หายนะคนเสื้อแดงและประชาธิปไตยไทย [i] (ปลายทางสันติวิธี : จุดจบระบอบอำมาตย์และกลุ่มอำนาจการเมืองฉ้อฉล) รองศาสตราจารย์ ดร. วรพล  พรหมิกบุตร คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์         เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ราชบัณฑิตยสถานบัญญัติศัพท์ไทยคำว่า “วิวัฒน์” เทียบเคียงกับคำภาษาอังกฤษว่า “EVOLVE” (ดูหนังสือ “บัญญัติศัพท์ของคณะกรรมการบัญญัติศัพท์”, จัดพิมพ์โดยราชบัณฑิตยสถาน , พ.ศ. ๒๕๑๗)  แต่คำว่า “ปฏิวัติ” มีผู้ใช้ในภาษาไทยเทียบเคียงกับคำภาษาอังกฤษว่า “REVOLUTION” มาก่อนปี พ.ศ. ๒๕๑๗ แล้ว โดยผู้ใช้คำดังกล่าวท่านแรกน่าจะเป็นหม่อมเจ้าวรรณไวทยากร (พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์) ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๗๕ จากเนื้อหาปาฐกถา  ณ  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  รวมทั้งการใช้คำภาษาไทยว่า “รัฐประหาร” เทียบเคียงกับคำภาษาฝรั่งเศสว่า “COUP D’ETAT”         ในหนังสือ “ความเป็นอนิจจังของสังคม” โดย ดร. ปรีดี  พนมยงค์  (พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๕๐๐) มีการเสนอให้ถ่ายทอดคำภาษาอังกฤษว่า “REVOLUTION” เป็นคำไทยว่า “อภิวัฒน์” (ดูรายละเอียดการอภิปรายความเป็นมาของเรื่องที่เกี่ยวข้องนี้ในบทความเรื่อง “ความเป็นมาของศัพท์ไทย ‘ปฏิวัติ’  ‘รัฐประหาร’   ‘วิวัฒน์’  ‘ อภิวัฒน์’”  ในหนังสือรวมข้อเขียนของปรีดี  พนมยงค์ เรื่อง “ปรีดี  พนมยงค์กับสังคมไทย”, จัดพิมพ์โดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,  เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๖)   แต่คำว่า “อภิวัฒน์” นั้นไม่ปรากฏว่าราชบัณฑิตสถาน ในปี พ.ศ. ๒๕๑๗ กำหนดให้นำมาใช้เป็นคำไทยเทียบเคียงความหมายคำว่า “REVOLUTION” ในภาษาอังกฤษ         บทความชิ้นนี้จะใช้คำว่า “ปฏิวัติ” ที่หม่อมเจ้าวรรณไวทยากรทรงริเริ่มใช้และเทียบเคียงความหมายกับกระบวนเหตุการณ์ที่มีพลังพลวัตต่อเนื่องยาวนานของ “การปฏิวัติวิทยาศาสตร์” ในทวีปยุโรป  ……………………………………………………………………         จนถึงขณะนี้  เป็นเวลากว่า ๓ ปีหลังเหตุการณ์ “รัฐประหาร ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙” ,ความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรงระหว่างกลุ่มอำนาจเบื้องหลังการรัฐประหารข้างต้นร่วมกับพรรคการเมืองและรัฐบาลในกำกับอำนาจของกลุ่มดังกล่าว  ฝ่ายหนึ่ง  กับกลุ่มพลังการเมืองภาคประชาชนและพรรคการเมืองที่เป็นปฏิปักษ์กับกลุ่มอำนาจดังกล่าว  อีกฝ่ายหนึ่ง  ยังคงเป็นความขัดแย้งที่ไม่มีผลยุติชัดเจนให้เห็นได้ในอนาคตอันใกล้ ไม่ว่าผลในทางสมานฉันท์หรือผลในทางยกระดับขัดแย้งแตกหัก        การจัดตั้งรัฐบาลผสมพรรคพลังประชาชนเข้าบริหารประเทศ  ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. […]

Categories
ข่าวการเมือง ข่าวประเด็นร้อน

ประชาชนวิเคราะห์ข่าว SWF ความร่วมมือระหว่างคลังหลวง VS คลังประชาชน

ย้อนอดีตความพยายามตั้ง กองทุนความมั่งคั่งแห่งประเทศไทย (Thailand Investment Corporation) บทความ รู้จักกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ตอบโจทย์ทิศทางประเทศไทย โดย ธิติ สุวรรณทัต ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับ 22 สิงหาคม 2554 ได้เล่าประวัติความพยายามในการจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของประเทศ ไทย ไว้ดังนี้ แนวคิดที่จะจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (Sovereign Wealth Fund : SWF ) ของประเทศไทยเริ่มก่อตัวเป็นรูปธรรมเมื่อสักประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว คือช่วงปี 2549-2550 ตั้งแต่สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ต่อเนื่องมาถึงรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช ก่อนที่วิกฤติซับไพรม์จะปะทุขึ้นที่สหรัฐในปี 2551 ในตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ หรือ SWFs จากประเทศต่างๆ กำลังผงาดขึ้นมาเป็นตัวละครที่สำคัญและมีบทบาทมากในระบบเศรษฐกิจการเงินโลก แต่ภายหลังจากที่วิกฤตการณ์ซับไพรม์ในสหรัฐลุกลามไปเป็นวิกฤติการเงินโลก ความเคลื่อนไหวของบรรดา SWFs ทั้งหลายก็เงียบไประยะหนึ่ง เพราะความผันผวนของตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลก อันเนื่องมาจากวิกฤติการเงินโลกที่อุบัติขึ้นในตอนนั้น ในวันที่ 3 มี.ค.2552 คณะรัฐมนตรี (รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ได้มีมติรับทราบความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ เรื่องการจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของประเทศไทย […]

Categories
ข่าวประเด็นร้อน

ประชาชนวิเคราะห์ข่าว ใจ อึ้งภากรณ์

วันครบรอบห้าปีรัฐประหาร ๑๙ กันยา ควรเป็นวันที่มีการนำนาย สนธิ บุญยรัตกลิน มา ขึ้นศาลในข้อหากบฏต่อประชาชนและล้มล้างรัฐธรรมนูญ และควรเป็นวันที่มีการนำนาย ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นศาลในฐานะเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าอีกด้วย แต่วันนี้เราเห็นปรากฏการณ์ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่มองว่าคนเสื้อแดงเป็นแค่ไพร่ หรือฝุ่นใต้ตีน เมื่อยิ่งลักษณ์ควงนายทหารมือเปื้อนเลือด ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปดูสภาพน้ำท่วมในต่างจังหวัด การกระทำนี้เป็นการก้มหัวให้อำนาจทหาร และฟื้นความชอบธรรมให้ทหารที่ไม่เคยเคารพประชาธิปไตย พร้อมกันนั้นเราเห็นรัฐมนตรีใหม่หลายคนออกมาปกป้องการใช้กฏหมาย 112 ที่เป็นเสาค้ำสำคัญเพื่อปกป้องทหาร กษัตริย์ เผด็จการ และความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย นี่คือสาเหตุที่คนเสื้อแดง ในส่วนก้าวหน้า ที่ต้องการประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียม และความเป็นธรรม จะต้องรวมตัวกันให้เข้มแข็งและอิสระจากอำมาตย์และเพื่อไทย เพื่อเคลื่อนไหวต่อไป ภาระของเรายังไม่จบสิ้น ลัทธิหรือปรัชญา “ความเสมอภาค” เป็นอาวุธทางความคิดที่สำคัญที่สุดในการทำลายลัทธิอภิสิทธิ์ชนของอำมาตย์ ที่เป็นฐานรับรองความย่ำแย่ของสังคมเรามานาน อำมาตย์ ทำรัฐประหารเพราะมองว่าพลเมือง ส่วนใหญ่ “ต่ำและโง่เกินไป” “ไม่ควรมีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกรัฐบาล” อำมาตย์ เกลียดชังการที่รัฐบาลไทยรักไทยในอดีตนำภาษีประชาชนมาบริการประชาชน เช่นในระบบสาธารณะสุข เพราะอำมาตย์อยากเอาเงินภาษีพลเมืองมาใส่กระเป๋าของตนเอง มาเชิดชูตนเอง หรือ ซื้อเครื่องบินราคาเป็นล้านให้ตัวเองนั่ง อำมาตย์เกลียดระบบรัฐสวัสดิการ ย้อนรอยบันทึกเหตุการณ์ในวันที่ 19 กันยายน 2549 เนื่องด้วยขณะนี้คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย”อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข”ซึ่งประกอบด้วย […]

Categories
ข่าวการเมือง ข่าวประเด็นร้อน

ประชาชนวิเคราะห์ข่าว วิกิลีกส์

วิกิลีกส์ -อภิสิทธิ์ยินดีปรีดาต่อรัฐประหาร19กันยา ห้าปีให้หลังจากการก่อการรัฐประหารเมื่อปี พ.ศ. 2549,เคเบิ้ลของวิกิลีกค์ ลงวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งแสดงให้เห็นโดยพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดูเหมือนว่่า มีคุณค่าต่อความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะในเนื้อหาของมันที่ เอกอัครราชฑูต ราล์ฟ บอยซ์ ได้รายงานเกี่ยวกับการประชุมที่เขาได้พบกับนายอภิสิทธิ์ ที่สำนักงานใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อคุยสนทนาในเรื่องของการเมือง และการก่อการรัฐประหาร นายอภิสิทธิ์ได้เริ่มขึ้นโดยการกล่าวยกย่องความมั่นใจใน “บุคลิกภาพ” ของหัวหน้าผู้ก่อการรัฐประหาร นั่นก็คือ พลเอกสนธิ บุญยะรัตกลิน โดยกล่าวว่า เขา “มี่ความมั่นใจว่า พลเอกสนธินั้น ไม่ได้ก่อการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน เพื่อที่จะนำให้ตัวเขาเองนั้น ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจได้” นายอภิสิทธิ์ได้อ้างว่า เขาเองนั้น “มีความวิตกกังวลมากกว่า กับกลุ่มที่มีความจงรักภักดีกับนายกฯ ทักษิณนั้น จะพยายามที่จะกลับหวนคืนเข้ามาสู่ชีวิตทางการเมืองอีก…” เขาเชื่อว่า การกระทำต่างๆ ของ ผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อนายกฯ ทักษิณ (ชินวัตร) นั้น จะ “นำความยุ่งยากมาให้กับ คณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข (คปค) […]

Categories
ข่าวการเมือง ข่าวประเด็นร้อน

นานาชาติพร้อมใจแนะกลางเวทียูเอ็น ประเทศไทยควรแก้ไขกฎหมายหมิ่นฯ – พ.ร.บ. คอมพ์ฯ

เมื่อเวลา 19.30 วันที่ 5 ตุลาคม 2554 สภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้จัดเวทีการรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศไทย โดยมีตัวแทนจากรัฐบาลไทยรายงานสถานการณ์สิทธิฯ ต่อสหประชาชาติและตัวแทนจากรัฐบาลต่างๆ กว่า 50 ประเทศ ทั้งนี้ ทางข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ได้ทำการถ่ายทอดสดการรายงานดังกล่าว ณ สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ถนนเพลินจิต การรายงานการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของแต่ละประเทศ หรือกระบวนการยูพีอาร์ เป็นกระบวนการที่เปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆ ในสภาสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ตั้งคำถามต่อประเทศที่ถูกตรวจสอบ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งใน 16 ประเทศของรอบเดือนตุลาคม 2554 ที่ต้องรายงานสถานการณ์สิทธิภายในประเทศต่อประชาคมนานาชาติ โดยใช้เวลารวมทั้งหมดสามชั่วโมง ทางคณะผู้แทนไทย นำโดยเอกอัครราชทูตสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ พร้อมตัวแทนจากกระทรวงต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงแรงงาน ได้รายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของไทยโดยรวมว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเสรีภาพสื่อมาก จะเห็นจากการที่สื่อไทยและต่างประเทศสามารถทำงานได้โดยปราศจากการแทรกแซงของ รัฐบาล และกล่าวถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในปีที่แล้วว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการทำการเยียวยา และชดใช้ความเสียหายให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบตามความเหมาะสม อังกฤษ-นอร์เวย์ ระบุ เคารพสถาบันได้ แต่อย่าจำกัดเสรีภาพการแสดงออก ในเวทีดังกล่าว พบว่า ตัวแทนรัฐบาลจากเกือบ […]

Categories
ข่าวประเด็นร้อน

เพื่อนพ้องน้องพี่ แสงไฟในเศษฟืน::ถ้าเราพอจะช่วยได้..ยาย..รอ…

เรื่องนี้เป็นเรื่องของสังคมที่อ่านแล้วอาจทำให้หลายๆ คนสะเทือนใจและสงสัยเหมือนที่ดิฉันสงสัยว่าประเทศไทยของเราสังคมไทยของพัฒนามาถึงปัจจุบันนี้ยังมีเรื่องแบบนี้กันอีกหรือ เนื้อเรื่องทั้งหมดได้รับจากฟอร์เวิล์ดเมล์พอไปถึงโคราช ก็ขับรถวนไปตรงถนนย่าโม หาทางไปตลาดแม่กิมเฮง ผ่านศาลย่าโมมานิดหน่อย พอมองหา ก็เห็นคุณยายนั่งอยู่ตรงเสาไฟฟ้าที่สามแยกหน้าร้านทอง (จอดรถที่วัดสะแกแล้วเดินกลับมานิดหน่อยก็เจอ) คุณยายนั่งอยู่กับพื้น ตรงหน้ามีผ้าพลาสติกเก่า ๆ มีเศษไม้มัดไว้เป็นกำ ๆ วางไว้เรียบร้อย มีกระดาษที่คนใจดี print ให้ไว้ว่า ”เศษไม้ก่อไฟ มัดละ 1 บาท”  เราบอกคุณยายไปว่า เห็นเรื่องยายในหนังสือ (หมายถึง email แต่ กลัวยายไม่รู้จัก) ก็เลยมาเยี่ยม คุณยายหูตึงแล้ว แต่ยังคุยรู้เรื่องนะ แกถามว่าหนูมาจากไหน จะอยู่กี่วัน มานี่พักอยู่ที่ไหน เราก็ตอบแกไปว่ามาจาก กรุงเทพฯ แกถามว่าอยู่เขตอะไร ก็บอกแกไปว่าอยู่เขตประเวศ ตอนนั้นคิดว่าบอกไป แกก็คงไม่รู้จักหรอก ระหว่างนั้นก็มีคนเดินมาดูเศษฟืน ถาม ๆ อะไรหน่อยแต่ก็ไม่ได้ซื้อ เราก็เลยบอกคุณยายว่าหนูขอซื้อกำ นึงนะ แล้วก็เอาเงินให้แกไปร้อยนึง ยายก็ยิ้มดีใจ ขอบใจให้พร ตอนนั้นประมาณบ่ายกว่า ๆ ยายบอกว่ายังไม่ได้กินข้าว เราก็เลยบอกให้ยายเก็บเงินไว้กินข้าวนะ แล้วยายก็เอาเงินซุกลงไปในเสื้อ เหน็บไว้ตรงหน้าอก ไอ้เราก็กลัวเงินจะหล่นนะ เพราะหน้าอกยายไม่ใช่สาว ๆ แล้ว  เท่าที่คุยกับยายก็เลยรู้ว่าแกต้องจ้างคนผ่าเศษไม้ให้ ถุงนึง 100 บาท แล้วแกก็เอากรรไกรเก่า ๆ เป็นสนิมอันนึง […]

Categories
ข่าวการเมือง ข่าวประเด็นร้อน

เพื่อนพ้องน้องพี่ เมื่อหายนะ…มาเยือน เบื้องหน้าเบื้องหลังการสลายการชุมนุม 10 เมษายน 2553

เมื่อหายนะ…มาเยือน เบื้องหน้าเบื้องหลังการสลายการชุมนุม 10 เมษายน 2553 ในความมืดนั้นคนชุดดำปรากฏตัวขึ้นแล้ว..แนวปะทะที่สี่แยกคอกวัว มีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บถูกหามออกมา ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังกึกก้องขึ้น ภาพที่เห็นจากคลิปวีดิโอ ระเบิดเอ็ม 79 น่าจะตกกลางแถวทหารประมาณแถวที่สอง ทหารล้มลงหลายคน และพยายามลากผู้บาดเจ็บถอยหลังหนี ระเบิดลูกที่สองซึ่งน่าจะมาจากคนยิงคนเดิมยิงลึกเข้าไปทางด้านขวามือของ ระเบิดลูกแรก ลูกนี้ก็น่าจะทำให้มีผู้บาดเจ็บอีก ส่วนระเบิดลูกที่สามยิงลึกเข้าไปอีกเพื่อจะให้ทหารถอยออกไป ลูกที่สี่ตกที่ทางแยกเข้าถนนข้าวสาร เป็นการสกัดไม่ให้ทหารที่ถนนข้าวสารถอยกลับมาที่ถนนตะนาวได้ ช่วงนี้กระสุนจริงถูกยิงตอบโต้เข้ามาเยอะ และก็น่าจะเป็นช่วงที่คนชุดดำยิงตอบโต้กลับไป ในภาวะนี้ใครหลบไม่ทันก็ต้องเจอลูกปืนจริง ๆแน่นอน มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตในช่วงเวลานี้หลายคน โดย แรม ราชประสงค์18 เมษายน 2553หมายเหตุไทยอีนิวส์:แรม ราชประสงค์ บอกว่า ได้เขียนลำดับภาพรวมของวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่นำไปสู่เหตุการณ์ 10 เมษาฯเลือด ภายหลังจบเหตุการณ์นี้ โดยได้เข้าไปดูสถานที่เกิดเหตุในภายหลังเหตุการณ์ และสัมภาษณ์ผู้อยู่ในเหตุการณ์ รวมทั้งเปิดคลิปวีดิโอ เพื่อบันทึกประวัติศาสตร์หน้านี้ ท่านใดเห็นต่างในข้อเท็จจริงสามารถโต้แย้งมาได้ เพื่อบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ ครั้งแรกเมื่อมีการชุมนุม ของคนเสื้อแดงในวันที่ 14 มีนา 2553 คนส่วนใหญ่คาดว่าการชุมนุมคงจะจบสิ้นในสองสามสัปดาห์ คนเสื้อแดงเองก็คาดว่าถ้า 7 วันไม่จบ 15 วันก็ต้องจบ ไม่มีใครคิดว่าคนจำนวนมากมายขนาดนั้นจะยืนหยัดต่อสู้ได้ยาวนานนับเดือน แกนนำคิดว่าเมื่อนำคนมาจำนวนมาก […]

Categories
ข่าวการเมือง ข่าวประเด็นร้อน

เพื่อนพ้องน้องพี่ ยุทธการ “ถลกหนังฤาษีกินเ..หี้ย”

บทความโดย…ปูนนกยุทธการขึ้นเขายายเที่ยงของคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมานี้   ผ่านไปอย่างตื่นเต้นและเรียบร้อยดี….ได้ทำการเปิดหมู่บ้านที่ 11 ขึ้นมาใหม่  โดยใช้ชื่อว่า  “หมู่บ้านสองมาตรฐาน”  ซึ่งบ้าน 3 หลังที่สร้างใหม่นี้ก็อยู่ติดกับบ้านพักของ  พล.อ. สุรยุทธ  จุลานนท์  บนเขายายเที่ยงนั่นเอง…. เมื่อได้เห็นความมีสองมาตรฐานที่เกิดขึ้นในประเทศนี้  และการสร้างภาพว่าเป็นผู้มีจิตใจงดงาม, สมถะน่าเคารพยกย่องของ  พล.อ. สุรยุทธ  ขณะที่ตนเองซึ่งเป็นประธานมูลนิธิอนุรักษ์ป่าเขาใหญ่และกลับใช้อำนาจนั้นสร้างบ้านในพื้นที่ป่าสงวนเขาใหญ่เสียเอง…ทำให้นึกถึงชาดกเรื่อง    “ฤาษีกินเ..ห้ย”   ขึ้นมาทันที…ซึ่งในชาดกได้บันทึกไว้ดังนี้ว่า……. ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้า ประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภกับภิกษุผู้หลอกลวงรูปหนึ่ง  และได้ทรงตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า… กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีดาบสผู้มีตบะกล้าตนหนึ่ง เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้าน จึงได้สร้างศาลาไว้ให้ที่ชายป่าแห่งหนึ่งใกล้บ้าน ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์ได้เกิดเป็นเ..ห้ยตัวหนึ่ง อาศัยอยู่ที่จอมปลวกแห่งหนึ่ง ใกล้ที่จงกรมของดาบสนั้น มันจะไปหาดาบสวันละสามครั้งเป็นประจำทุกวัน เพื่อฟังธรรม ไหว้ดาบสแล้ว จึงกลับไปอยู่ที่อยู่ของตน ต่อมาไม่นาน ดาบสนั้น ได้อำลาชาวบ้านไปที่อื่น ได้มีดาบสโกงตนหนึ่ง เข้ามาอาศัยในศาลานั้นแทน เ..ห้ยพระโพธิสัตว์ก็คิดว่า แม้ท่านผู้นี้ก็ทรงศีลเหมือนกัน จึงไปหาดาบสนั้นเช่นเดิม อยู่มาวันหนึ่ง ฝนได้ตกมาในฤดูแล้ง ฝูงแมลงเม่าได้พากันบินออกจากจอมปลวกเป็นจำนวนมาก ฝูงเ..ห้ยก็ได้ออกมากินแมลงเม่าเหล่านั้น พวกชาวบ้านพากันออกมาจับเ..ห้ยแล้วปรุงเป็นอาหาร รสอร่อยนำมาถวายดาบส […]